ฝ้าปัญหาผิวหน้ารักษาให้หายขาดได้

ผู้เขียน : รัชนก พวงธนะสาร

“ฝ้า ” ริ้วรอยปื้นดำบนใบหน้าเป็นปัญหาใหญ่ของผู้หญิงทุกคน นอกจากทำให้เกิดรอยดำบนใบหน้า สร้างความกังวลใจ ทำให้เสียเวลาแต่งหน้าเพื่อปกปิดริ้วรอยแล้ว การรักษาฝ้าให้หายหรือจางลงยังทำได้ยาก ใครที่มีปัญหาหนักใจเกี่ยวกับฝ้า บทความนี้ผู้เขียนมีความรู้เกี่ยวกับการดูแลผิว และแนวทางการรักษาฝ้า มาแนะนำ ค่ะ

ฝ่า และสาเหตุของการเกิดฝ้า       

            ฝ้า คือ ริ้วรอยที่มีลักษณะเป็นปื้นดำบนใบหน้าบริเวณโหนกแก้ม คาง หน้าผาก รอยดำของฝ้าที่ทำให้รู้สึกกังวลใจ และเป็นปัญหาผิวหน้าได้แก่ฝ้าที่ขยายกว้างและมองเห็นได้ชัดเจนบริเวณโหนกแก้ม พบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายส่วนมากพบในผู้หญิงช่วงอายุ 25-55 ปี สาเหตุการเกิดฝ้ามีหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม ถูกกระตุ้นโดยแสงแดด ฮอร์โมน และเครื่องสำอาง

1.ฝ้าจากพันธุกรรม

พันธุกรรม อาจเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดฝ้าได้ เนื่องจากมีงานวิจัยทางพันธุกรรมระบุว่าพันธุกรรม เอื้อต่อการเป็นฝ้าสูงถึง 50 % และยังพบอีกว่าหากหากพ่อแม่หรือมีคนในครอบครัวเป็นฝ้า ตัวเราก็มีโอกาสเป็นฝ้าได้สูง ปัจจุบันยังไม่สามารถหายีนที่ควบคุมการเกิดฝ้าได้ 

2. ฝ้าจากแสงแดด

แสงแดด คือปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดฝ้า หากเผชิญกับรังสียูวีจากแสงแดดอยู่บ่อย ๆ รวมทั้ง แสงจากจอคอมพิวเตอร์ มือถือ หรือจอสมาร์ทโฟน ฝ้าจากแสงแดดจะมีลักษณะเป็นรอยสีน้ำตาลคล้ำ ดำ แดง หากไม่ได้รับการดูแลก็จะเข้มขึ้นเรื่อย ๆ

3. ฮอร์โมน

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดฝ้า  เช่น ฝ้าขณะตั้งครรภ์ ฝ้าจากการรับประทานยาคุมกำเนิด การเข้าสู่วัยทองและวัยหมดประจำเดือน ซึ่งฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงจะไปกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากขึ้น จึงทำให้เกิดฝ้าขึ้นได้

3. เครื่องสำอาง

การใช้เครื่องสำอางบางชนิดที่มีผลต่อการแพ้ เพราะความเข้มข้นของเครื่องสำอางที่มีส่วนไปกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีเมลานินบนผิวหนังเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นปื้นดำหรือรอยฝ้า

รู้ชนิดของฝ้า รักษาหายได้

            ฝ้า  เป็นภาวะที่เซลล์สร้างเม็ดสีใต้ผิวหนังทำงานมากขึ้น ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้น ๆ มีลักษณะเป็นจุด หรือรอยปื้นดำ นอกจากเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยแล้ว ฝ้ายังมีหลายชนิดการดูแลรักษาก็จะแตกต่างกันไป ดังนั้นการรู้ชนิดของฝ้า จึงทำให้ง่ายต่อการรักษา ชนิดของฝ้ามี ดังนี้

1. ฝ้าตื้น ฝ้าชนิดนี้เกิดบริเวณชั้นหนังกำพร้า สีเข้มมีขอบชัดเจน ฝ่าตื้นจะมองเห็นได้อย่างชัด เพราะอยู่ที่เซลล์ผิวชั้นบน หากบำรุงดูแลผิวอย่างดีก็จะรักษาให้หายได้ไม่ยาก

2. ฝ้าลึก เป็นฝ่าที่เกิดในชั้นผิวหนังแท้อยู่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า มีสีเข้มขอบเขตไม่ชัดเจน เนื่องจากเกิดอยู่ในชั้นผิวหนังที่ลึก ทำให้รักษาได้ยากและไม่ค่อยหายขา

3. ฝ้าแบบผสม ฝ้าชนิดนี้เกิดได้ทั้งในระดับชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้รวมกัน ลักษณะของฝ้าตรงกลางมักมีสีเข้มแสดงถึงฝ้าในชั้นหนังแท้ ส่วนขอบมักมีสีจางกว่าแสดงถึงฝ้าในหนังกำพร้า และเป็นชนิดฝ้า ที่พบได้มากที่สุด

วิธีรักษาฝ้า ให้หายขาด

            ฝ้า เป็นปัญหาผิวหน้าที่ดูแลรักษาให้หายขาดได้ยาก บางคนรักษาฝ้าจางลงหรือฝ้าหายไปจากผิวหน้าได้แล้ว ก็สามารถกลับมาเป็นได้อีกหากมีปัจจัยกระตุ้น การรักษาเพื่อให้ฝ่าหายขาดจึงต้องใช้หลาย ๆ วิธีร่วมกัน ดังนี้

1. การบำรุงผิว

การบำรุงผิว เป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับโครงสร้างของผิว หลายคนอาจเข้าใจผิดและคิดว่า การบำรุงผิวเป็นขั้นตอนก่อนเกิดฝ้าหรือบำรุงเพื่อป้องกันฝ้าและริ้วรอยต่าง ๆ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด การใช้ครีมบำรุงต่าง ๆ เป็นการฟื้นฟูเซลล์ผิวให้กลับมาแข็งแรงมากขึ้น เพิ่มการไหลเวียนเลือดและเส้นเลือดฝอยที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้เม็ดสีก็กระจายตัวได้สม่ำเสมอ ช่วยให้รอยฝ้าดูจางลง เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวดูเต่งตึง และขาวกระจ่างใจอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

2. ทาครีมหรือทายารักษาฝ้า

การทาครีมสำหรับรักษาฝ้าโดยเฉพาะ จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำ กระตุ้นให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออก และเผยผิวใหม่ขึ้นมาแทน ทำให้ฝ้าจางลง ส่วนการทายามียาหลายชนิดที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะมีไฮโดรควิโนน เป็นส่วนผสมช่วยให้ฝ้าจางลงและทำให้หน้าดูกระจ่างใสขึ้น

3. เลเซอร์รักษาฝ้า

เลเซอร์รักษาฝ้า คือการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ เข้ามาช่วยเสริมในการรักษาช่วยให้เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว  โดยใช้เทคโนโลยีคลื่นแสงเลเซอร์ทำลายเม็ดสีที่เรียงตัวกันอย่างหนาแน่นเป็นกระจุก เกิดการแตกตัว และถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกลไกธรรมชาติ

            ฝ้า ปัญหาผิวหน้าที่เป็นแล้วรักษาได้ยาก และยังต้องใช้เวลาในการดูแลรักษาเพื่อให้ฝ้าจางลงหรือริ้วรอยหายไป แม้ปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้การรักษาฝ้าทำได้ง่ายสามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นการป้องกันการเกิดฝ้าย่อมดีกว่าการรักษา เพียงหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นและเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปและต้องเป็นแบบ PA+++ โดยทาเป็นประจำก็ช่วยให้ทุกคนปลอดภัยจากการเกิดฝ้าบนใบหน้าได้แล้วค่ะ

 

share this recipe:
Facebook
Twitter
Pinterest